เล่าเรื่องด้วยภาพ - การเดินทางของ 2 สาว

ในที่สุดก็มีโอกาสได้แต่งรูป ลงรูป และเล่าเรื่องการเดินทางของเรา
ก่อนที่การเดินทางปลายทางที่ใหม่จะเริ่มต้นขึ้นในเสาร์นี้...
จึงมาเล่าเรื่องราวบันทึกไว้ก่อน ฮี่ๆๆๆ


การเดินทางทริปนี้ ไปกันกับแม่สองคน เนื่องจากเคยคุยกับแม่กับป๊าแหละว่า .. 
ถ้าทำงานแล้วจะให้ของขวัญตัวเองด้วยการไปเที่ยวต่างประเทศที่ไหนก็ได้ปีละอย่างน้อยหนึ่งครั้ง..
ก็ไม่ได้ทำตามที่ว่าไว้ไปสองปี...ก็ได้ฤกษ์เวลาเหมาะสม ..เปิดเว็บหาที่ท่องเที่ยว
โดยมีข้อแม้ว่า... อยากไปประเทศที่อากาศหนาวกว่าไทย และ ถ้าเป็นไปได้ชอบขึ้นเครื่องบินที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพราะว่า ถ้าขึ้นดอนเมืองจะไม่ให้ความรู้สึกไปเที่ยวต่างประเทศ
โดย ที่แรกที่ตกลงปลงใจว่าจะไปแล้วคือมาเก๊าจูไห่ แต่ว่า..ทริปนั้นเลื่อน ..ไปเวลาที่เราไม่ว่าง
เลยต้องหาทริปใหม่ ..ไปเรื่อยๆ และก็ไปทริป ฮ่องกงเซินเจิ้นนี่ล่ะ
จริงๆแม่เพิ่งจะไปเที่ยงฮ่องกงมาตอนเดือนสิงหาคม แต่ว่าธันวาก็ยังใจดีไปเป็นเพื่อนเราอีก :)
ก็เป็นอันตกลง เดินทางไปฮ่องกงเซินเจิ้น..... 


จุดเริ่มต้นของเราเริ่มต้นช่วงเที่ยงๆของวันที่ 13 ธันวาคม โดยเราสองแม่ลูกเดินทางด้วยแท็กซี่จากคอนโดไปสนามบินใช้เวลาประมาณครึ่งชม. ที่ ทางเข้าที่ 9 สายการบิน Emirates






หม่าม้าคนสวย

เวลานี้ไม่ค่อยมี flight หนาแน่น คนเลยบางตา


ครั้งแรกกับการนั่ง Airbus A380

ครั้งแรกกับการใช้บริการ Emirates

ภายในเครื่องบิน ใหญ่โต โออ่า มีหน้าจอ ปลั๊กไฟ ช่อง usb และ อีกมากมาย

อาหารบนเครื่องบิน

เมฆและหมอกหนามาก ระหว่างลงสนามบิน ปกติจะมองเห็นทะเลและเรือยอร์ชจอดทอดสมอ ..แต่ครั้งนี้มองไม่เห็นอะไรเลย

ภายในสนามบิน Chek lap kok
เมื่อเดินทางมาถึงสนามบินฮ่องกง โดยปกติถ้ามากับทัวร์ไกด์จะรอลูกทัวร์และเดินไปพร้อมๆกัน แต่นี่เปล่าเลย เราต้องเดินไปทุกๆที่เอง บอกเพียงว่าเจอกันที่สายพานรอกระเป๋า ด้วยความที่แม่มาที่นี่เป็นครั้งที่สาม แม่เลยพาเราซึ่งยืนเอ๋อๆ ไปทุกๆที่...จนถึงสายพานและพบกว่าไกด์รอที่นั่นแต่ด้วยความที่เราอยากเข้าห้องน้ำกันทั้งคู่ เลยบอกไกด์ว่าจะไปเข้าห้องน้ำนะคะ ไกด์บอกว่าโอเค..ผมจะรออยู่ที่นี่...
เราจึงไปด้วยกันทั้งคู่ด้วยความจริงเรากลัวพลัดหลงจากแม่มากกว่าพลัดหลงจากไกด์เลยไปเข้าด้วยกันดีกว่า พอเข้าห้องน้ำเสร็จ เดินกลับมาที่สายพาน ไกด์หายยไปแล้ว.... เอาล่ะสิทีนี้ ... ดีนะ ที่เปิดโรมมิ่ง และชาร์จไอโฟนมาจากบนเครื่องบิน โทรไปหาไกด์ทีแรกไม่เปิดเครื่อง อุ้ยย.. โดนทิ้งป่าวนี่...
ก็เดินไปหาประชาสัมพันธ์ เพื่อจะประกาศหาแต่ก้อโชคดีไกด์คงเพิ่งรู้ตัวว่าลืมลูกทัวร์สองสาวไว้ที่นี่โทรกลับมา และรีบเดินมาหาเลย เย่ๆ.. ทีแรกคิดแล้วว่าถ้าโดนทิ้งจริงๆก็คงจะหารถไฟฟ้าเข้าไปนอนและเที่ยวเองที่ฮ่องกงนี่ล่ะ :D เค้าก็เลยมาขอโทษใหญ่เลยทีนี้  จากนั้นก็เดินทาง ไปยังด่านเพื่อข้ามแดนไปเซินเจิ้น อุณหภูมิของวันนี้หนาวกำลังดี ... 

ต้องนั่งรถเพื่อข้ามแดน ผ่านด่าน ที่คนจีนมหาศาล ...ใจไม่เย็นอาจจะมีลงไม้ลงมือได้ ห้าๆๆๆ
เดินไกลมาก..ฝนตกหน่อยๆ ที่สำคัญต้องลากกระเป๋า ...ยาวๆๆ ไกล ขึ้นและลงสะพาน กว่าจะถึงรถโค้ชที่รอรับ...
สวัสดีเซินเจิ้น...บ้านเมืองเต็มไปด้วยตึกสูงถนน มีแต่ super highway ทั้งนั้นเลย น่าตื่นตาตื่นใจสุดๆอ่า
จากที่ฟังไกด์ท้องถื่นเล่าให้ฟังเค้าก็บอกแหละว่า ส่วนมากเป็นคนจีน จากกวางตุ้งซัวเถา หรือ ต้นตระกูลญาติๆพวกเรานี่ล่ะ
ที่แต่ก่อนจนมากๆ ค่อยๆขยับขยาย มาเป็นเถ้าแก่ในเมืองเซินเจิ้นนนี่ล่ะ :)
...
นั่งรถมาสักพักก็ถึงโรงแรม Fulai Garden Hotel
นับว่าเป็นโรงแรม 4 ดาวเลยก็ได้  ค่อนข้างดี มี Wifi แต่ตรง lobby แต่ก็ดีกว่าไม่มี แฮร่..
และมาจีน ก็จะอดเล่น Facebook ไปโดยปริยาย ทักทายกลับมาเมืองไทยผ่าน Line และ Instagram





ภายในห้องนอน ก็กว้างขวาง สะอาด สบายดี ห้องน้ำนี่ซิ ... ไม่รู้จะเซ็กซี่อะไรมากมาย ประตูไม่มีกลอน แถมเป็นกระจกใสๆ รอบด้าน ให้แอบมองกันได้สบายๆ แต่ แฮร่เรามากับแม่ สบายใจ ....
...
คืนนี้นอนหลับสนิทด้วยยความเพลีย ท่ามกลางสายฝนภายนอกโรงแรม

...

เช้าวันรุ่งขึ้น ก็ตื่นแต่เช้าลงมาทานอาหารเช้า... ตามสไตล์จีนๆ ไม่มี American Breakfast แต่อย่างใด
แต่ก็อร่อยดี ....จากนั้นก็เดินทางไปเที่ยวภายในเมืองเซินเจิ้น ไปหลายที่เลยแต่ก็เริ่มลืมๆไปแล้วแหละ จะสี่เดือนแล้วนี่เนอะ



อันนี้เป็นรูปปั้นสะท้อนชีวิตของคนจีนสมัยรุ่นอาเหล่าโจ๋ว กงเรา เลยล่ะ จากพิพิธภัณฑ์ เซินเจิ้น กล่าวคือเมืองเซินเจิ้นเนี่ย เป็นเมืองสร้างใหม่ ถ้าสำหรับคนที่จะไปเที่ยวจีน เพื่อพบกับธรรมชาติ หรือประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน ก็คงไม่แนะนำ
เพราะเมืองใหม่ก็ มีแต่อะไรใหม่ๆ ใช่ม้า... ตึกรามบ้านช่อง เทคโนโลยีต่างๆ นี่ค่อยว่ากัน

หม่าม้ากับจานเบญจรงค์ใบใหญ่

อันนี้เป็นของที่ระลึกที่ จีนที่ได้เกาะมาเก๊าคืนมา

และนี่ก็เมื่อได้ฮ่องกงคืนมา 


ห้างหลอวู่... ห้างรวมของก๊อปปี้ เกรด A-Z ละกัน โดยส่วนตัวไม่ค่อยชอบบรรยากาศในห้างเท่าไหร่
สูบบุหรี่กันทุกๆที่ ทุกๆเวลา..แล้วคนขายก็แอบนักเลงหน่อยๆ อย่าคิดไปต่อ หรือทำท่าสนใจเชียวล่ะ ...
สบายใจเลย เค้าจะสนใจคุณไม่หยุดหย่อนเลยล่ะ ... 

ตึกอะไรไม่รู้ ตรงข้ามห้างหลอวู่อีกทีนึง

หลังจากเดินรมควันบุหรี่มาพอสมควรแล้ว ก็หาที่นั่งพัก มาเจอร้านอาหาร fast food แห่งหนึ่ง .... มีรูป ..ค่อยยังชั่ววว 

ได้กาแฟร้อนมา..จิบกันเบาๆสองแม่ลูก

วันนี้ และทุกๆวันที่ไปเที่ยวถ่ายรูปออกมาเป็นท้องฟ้าไม่ฝนตกก็หมอกทึบตลอด ห้าๆๆๆ 





อาหารๆๆๆๆๆ กินแล้วคิดถึงน้ำพริกกะปิปลาทูที่ซู้ดดด
  


จบการเดินทางวันนี้ด้วยฝนตก ... และเข้าที่พักหลับฝันดี
พร้อมกับต้องตื่นเช้าตรู่เพื่อมาบู๊ที่ด่านตอนเช้า...ฝนพรำๆเช่นเคย
เดินไกลมาก พร้อมกับเจอคนจีนที่กำลังจะข้ามไปเที่ยงฮ่องกง...
และแน่นอน เค้าชอบแซงคิว.. ครั้งนี้เราอดทนไม่ได้ละ เรากับแม่ยืนต่อกัน มีกระเป๋าล้อลากกันไว้...
คนจีนเดินเข้ามาระหว่างกระเป๋า... แง่ม ๆ ด้วยความที่เราก็ตัวสูงในระดับนึง... ก็จับเสื้อเค้าเบาๆที่บ่า
และลากออกไปทางขวา 60 องศา จากนั้นลากออกไปอีก 120 องศา มาอยู่หลังช้านซะดีๆ



สภาพ หลังจากแบกสัมภาระข้ามด่าน ตากฝนและรอรถโค้ชมารับ ... โทรมซะละ ยังไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลย



มาไหว้ศาลแชกงเมี่ยว 



บรรยากาศขลังๆ

เซียมซ๊ ...

ธูปเค้าใหญ่จริง


ต้นคริตสมาส ที่โรงแรม โนโวเทล

อาหารมื้อนี้อร่อยที่สุดในทริป .... 


มาไหว้เจ้าแม่กวนอิม .. องค์ใหญ่

ต้องไปยืนตรงกลาง แล้วก็ไหว้แหละ ...


ขุ่นแม่ โพสท่า ท่ามกลางสายฝน



อ่าววิคตอเรีย ในวันที่เมฆหมอกปกคลุม 

ภาพเลยสีแปลกๆมั่วๆ ไปเลย อิอิ .... ท้องฟ้าไม่อำนวย 



หลังจากข้ามด่านมายังฝั่งฮ่องกง ก็พบว่า บ้านเมืองน่าอยู่เป็นระเบียบเรียบร้อยกว่าฝั่งเซินเจิ้น
มากมายหลายเท่านัก ... ไว้โอกาสหน้าจะมาด้วยตัวเอง อีกรอบให้ได้... จะไปเที่ยวแบบ unseen กว่านี้...


ถนนนาธาน ... ชอบที่สุดเลย บรรยากาศ แสงสี สวยงาม ที่สำคัญเจอคนไทยเยอะมาก...
คนฮ่องกงแถวนี้พูดภาษาอังกฤษได้ดีมากๆๆๆ
ถามทางได้สบายเลย








เดินทางกลับแล้ว... เย่ ...


บ๊ายบายฮ่องกง แล้วเค้าจิกลับไปเที่ยวหม่ายยยยย :D

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม