ครบรอบ 1 ปี วันรับพระราชทานปริญญาบัตร
วันนี้ก็ครบรอบ 1 ปีพอดี สำหรับการเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร ปีการศึกษา 2553
ซึ่งเป็นอีกวันหนึ่งในชีวิตที่เราจะจดจำและเล่าให้ใครๆฟังกี่ครั้งได้ไม่มีเบื่อ
จำได้ว่าตื่นนอนตั้งแต่ตีสี่ แล้วลงลิฟต์ไปรับพี่ก้อยช่างทำผมและแต่งหน้าที่ใต้คอนโด
มีเพียงหม่าม้าคนเดียวที่ตื่นมาอยู่เป็นเพื่อนป๊าเฮียและน้องๆ ก็หลับเอาแรงกันต่อ
วันนี้บอกพี่ช่างแต่งหน้าว่าไม่แต่งหนามาก และ ขอเปลี่ยนทรงผม
ซึ่งก็เอารูปให้พี่เค้าดูไปๆมาๆ กลายเป็นผมอีกทรง ซึ่งดูไม่ถูกใจเท่าไหร่ แต่ก็ไม่เป็นไร
เรียบร้อยดี แอบเสียดายหน่อยๆที่วันนี้เค้าห้ามติดขนตาปลอม ตาเลยมะสวยวิ๊งๆ
เมื่อทุกคนพร้อมก็ออกเดินทางไปไบเทค ซึ่งเข้าห้องพิธีช่วงบ่ายแหละ และให้รวมพลตอนเที่ยง
ซึ่งไม่เหมือนตอนเฮียจะไปเช้าๆ อากาศดีๆครั้งนี้ออกสายเลยรถติดหน่อย แปปนึงก็ไปเข้าห้องพิธีแล้ว
จำได้ว่าเค้าไม่ให้พกมือถือ แต่แอบพกเงินไปห้าสิบบาท ห้าๆๆ
กำลังจะเดินเข้าเกิดหิวน้ำ เลยซื้อน้ำแบบจ่ายไปแล้วไม่รับตังค์ทอนที่เป็นเหรียญเลย
ก็เข้าไปนั่งรอเวลาในห้องข้างๆห้องพิธีนานพอสมควร ง่วงสุดๆ
ได้เวลาสมควรก็เข้าห้องพิธี วันนี้ช่างแตกต่างคนละอารมณ์กับวันซ้อมใหญ่มาก
เพราะว่าดูขลังและศักดิ์สิทธิ์ทีเดียว ยิ่งพอได้ฟังเพลงลูกพระจอม ซึ่งเป็นการร้องสด แบบประสานเสียง
ขนงี้ลุกเลย เมื่อสมเด็จพระเทพฯเสด็จมาถึงด้วยแล้วก็ยิ่งทวีความตื่นเต้นไปอีก
โชคดีที่ภาคคอมรับหลังจากที่พักครึ่งพอดี ~ ทำให้ได้ภาพที่พระองค์ทรงสดใสพอดี
ตอนแรกก็ไม่ได้มือไม้สั่นอะไร
พอไปถึงหน้าเวทีเท่านั้นแหละ มือสั่นและก้าวขาแทบไม่ออกเลยแฮะ
น้ำตาจะไหลจริงๆเลยอ่ะ
ท่าที่ปกติซักซ้อมมานั้น
ลืมไปหมดสิ้น
ภาพที่ประดับหน้าบ้านเลย ออกมาเป็นมือกำและเท้าแยกจากกัน
...
นึกแล้วก็ตลกดี ไม่เป็นไร ยังมีป.โท และป.เอกให้เราได้แก้ตัวใหม่ใช่ไม๊
5555+
แน่นอนว่าออกจากห้องพิธีมาเราจิต้องไปแทคมือกะปะป๊าหม่าม้า ยะูฮู้วว :)
ปริญญาบัตร
1 ปีผ่านไป ~ ไวเหมือนโกหก
ได้เล่าเรื่องนี้แล้วรู้สึกว่ายิ่งอยากให้เรียนจบป.โทไวๆอีกครั้งนึงเลย
ซึ่งเป็นอีกวันหนึ่งในชีวิตที่เราจะจดจำและเล่าให้ใครๆฟังกี่ครั้งได้ไม่มีเบื่อ
จำได้ว่าตื่นนอนตั้งแต่ตีสี่ แล้วลงลิฟต์ไปรับพี่ก้อยช่างทำผมและแต่งหน้าที่ใต้คอนโด
มีเพียงหม่าม้าคนเดียวที่ตื่นมาอยู่เป็นเพื่อนป๊าเฮียและน้องๆ ก็หลับเอาแรงกันต่อ
วันนี้บอกพี่ช่างแต่งหน้าว่าไม่แต่งหนามาก และ ขอเปลี่ยนทรงผม
ซึ่งก็เอารูปให้พี่เค้าดูไปๆมาๆ กลายเป็นผมอีกทรง ซึ่งดูไม่ถูกใจเท่าไหร่ แต่ก็ไม่เป็นไร
เรียบร้อยดี แอบเสียดายหน่อยๆที่วันนี้เค้าห้ามติดขนตาปลอม ตาเลยมะสวยวิ๊งๆ
เมื่อทุกคนพร้อมก็ออกเดินทางไปไบเทค ซึ่งเข้าห้องพิธีช่วงบ่ายแหละ และให้รวมพลตอนเที่ยง
ซึ่งไม่เหมือนตอนเฮียจะไปเช้าๆ อากาศดีๆครั้งนี้ออกสายเลยรถติดหน่อย แปปนึงก็ไปเข้าห้องพิธีแล้ว
จำได้ว่าเค้าไม่ให้พกมือถือ แต่แอบพกเงินไปห้าสิบบาท ห้าๆๆ
กำลังจะเดินเข้าเกิดหิวน้ำ เลยซื้อน้ำแบบจ่ายไปแล้วไม่รับตังค์ทอนที่เป็นเหรียญเลย
ก็เข้าไปนั่งรอเวลาในห้องข้างๆห้องพิธีนานพอสมควร ง่วงสุดๆ
ได้เวลาสมควรก็เข้าห้องพิธี วันนี้ช่างแตกต่างคนละอารมณ์กับวันซ้อมใหญ่มาก
เพราะว่าดูขลังและศักดิ์สิทธิ์ทีเดียว ยิ่งพอได้ฟังเพลงลูกพระจอม ซึ่งเป็นการร้องสด แบบประสานเสียง
ขนงี้ลุกเลย เมื่อสมเด็จพระเทพฯเสด็จมาถึงด้วยแล้วก็ยิ่งทวีความตื่นเต้นไปอีก
โชคดีที่ภาคคอมรับหลังจากที่พักครึ่งพอดี ~ ทำให้ได้ภาพที่พระองค์ทรงสดใสพอดี
ตอนแรกก็ไม่ได้มือไม้สั่นอะไร
พอไปถึงหน้าเวทีเท่านั้นแหละ มือสั่นและก้าวขาแทบไม่ออกเลยแฮะ
น้ำตาจะไหลจริงๆเลยอ่ะ
ท่าที่ปกติซักซ้อมมานั้น
ลืมไปหมดสิ้น
ภาพที่ประดับหน้าบ้านเลย ออกมาเป็นมือกำและเท้าแยกจากกัน
...
นึกแล้วก็ตลกดี ไม่เป็นไร ยังมีป.โท และป.เอกให้เราได้แก้ตัวใหม่ใช่ไม๊
5555+
แน่นอนว่าออกจากห้องพิธีมาเราจิต้องไปแทคมือกะปะป๊าหม่าม้า ยะูฮู้วว :)
ปริญญาบัตร
1 ปีผ่านไป ~ ไวเหมือนโกหก
ได้เล่าเรื่องนี้แล้วรู้สึกว่ายิ่งอยากให้เรียนจบป.โทไวๆอีกครั้งนึงเลย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น